ซอฟต์เเวร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ความหมายระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ใน ปัจจุบันการใช้คอมพิวเตอร์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องใช้ประจำสำนักงาน เริ่มจากการใช้ในงานพิมพ์เอกสาร เก็บข้อมูล เป็นเครื่องที่ใช้ทำงานคนเดียว เมื่อสำนักงานหรือองค์กรนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเริ่มมีการใช้คอมพิวเตอร์หลายรูป แบบ บางครั้งอาจมีการทำงานเหมือนกันหรือแตกต่างกันก็ได้ บางลักษณะงานที่ต้องใช้ข้อมูลร่วมกัน ถ้าเจ้าหน้าที่แต่ละคนเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องของตนเอง ความซ้ำซ้อนของข้อมูลย่อมเกิดขึ้น ทำให้เสียเวลามากขึ้น บางครั้งข้อมูลไม่ตรงกัน จึงทำให้มีการหาวิธีเพื่อทำการเชื่อมโยงต่อระบบเครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านั้น เข้าด้วยกัน เพื่อลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลและสะดวกในการใช้งานการเชื่อมโยงเครื่อง คอมพิวเตอร์แต่ละตัวที่ใช้ทำงานเข้าหากัน เราเรียกเชื่อมโยงนี้ว่า ระบบเครือข่าย
องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์
ประโยชน์ของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายในบริเวณเฉพาะที่ การ เชื่อมต่อเครือข่ายให้ประโยชน์ในด้านการใช้ข้อมูลร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ข้อมูลในฐานข้อมูลเดียวกันทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นปัจจุบันมากที่สุด และยังให้ประโยชน์ในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เช่น อุปกรณ์ประเภทเครื่องพิมพ์ (Pinter) เครื่องกราดตรวจ (Scanner) นอกจากนี้ยังทำงานเอกภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น
ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เนื่อง จากระบบนี้เป็นระบบใหญ่ที่มีการเชื่อมต่อโยงกันทั่วโลก ผลประโยชน์และผลกระทบจึงมีกว้างไกลมาก สิ่งที่เรารู้จักและนำมาใช้ประโยชน์ทุกวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องซึ่งจะนำมาซึ่งสิ่งใหม่ ๆ อีกมากมาย ตัวอย่างประโยชน์ที่เรานำมาใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ การสื่อสารด้วยไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) การสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ การศึกษาแบบ E-Learning การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) และการธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Banking)
ระบบเครือข่ายร่วมปฏิบัติ เป็น ระบบเครือข่ายที่ทำให้เกิดการรวมพลังของคอมพิวเตอร์เครือข่ายมาทำงานร่วมกัน ขณะที่มีการนำระบบนี้มาใช้ในงานวิจัยเพื่อถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่กระจายอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการวิจัยได้ และ แต่ละเครื่องจะได้รับส่วนแบบของงานคำนวณมาทำ สมรรถนะของคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในเครือข่ายจึงยิ่งกว่าซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ใด ๆ ในโลก ทำให้งานวิจัยสามารถสำเร็จลุล่วงได้ในเพียงไม่กี่ปี แทนที่จะต้องใช้เวลานานนับสิบ ๆ ปี
ประเภทของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เครือ ข่ายสื่อสารของคอมพิวเตอร์อาจมีขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็กอาจเป็นส่วนบุคลหรือสาธารณะ และอาจจะเป็นแบบไร้สายหรือใช้สายหรือใช้ทั้งสองแบบร่วมกัน ในทำนองเดียวกันเครือข่ายขนาดเล็กอาจจะมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายขนาดใหญ่ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้งานในปัจจุบันสามารถแยกได้ 3 ประเภทใหญ่ ดังนี้
เครือข่ายแลนหรือเครือข่ายบริเวณเฉพาะที่ (LAN หรือ Local Area Network) เป็น เครือข่ายที่นิยมใช้ภายในสำนักงานอาคารเดียวกัน และองค์กรที่อยู่ในบริเวณเดียวกันหรือใกล้กัน เป็นเครือข่ายระยะใกล้การเชื่อมต่อสามารถใช้สายเคเบิล สายโคแอกซ์ หรือสายใยแก้ว ช่วยเพิ่มประสิทธิ์ภาพใน การทำงานขององค์กรและสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันได้ ตัวอย่างของเครือข่ายนี้ได้แก่ เครือข่ายคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัย โรงเรียน และบริษัทหรือห้างร้านต่างๆ
เครือข่ายแลนหรือเครือข่ายบริเวณเฉพาะที่
เครือข่ายแมนหรือเครือข่ายบริเวณนครหลวง (MAN หรือ Metropolitan Area Network)เป็น เครือข่ายที่มีการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้ที่อยู่ในเขตเมืองเดียวกัน เป็นเครือข่ายขนาดกลางที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนของเมือง นั้นหรือเขตการปกครองนั้น เช่น เครือข่ายของรัฐต่างๆ ในประสหรัฐอเมริกา
เครือข่ายแมนหรือเครือข่ายบริเวณนครหลวง
เครือข่ายแวนหรือเครือข่ายบริเวณกว้าง (WAN หรือ Wide Area network) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงระบบเข้าด้วยกันในระยะไกล ครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศ ระหว่างประเทศ หรือทั่วโลก โดยอาศัยอุปกรณ์ดาวเทียม สายเส้นใยแก้วนำแสง หรือคลื่นไมโครเวฟ เป็นตัวกลางในการสื่อสาร ระบบเครือข่ายประเภทนี้ที่เรารู้จักกันดีก็คือเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
เครือข่ายแวนหรือเครือข่ายบริเวณกว้าง
รูปแบบการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เครือข่ายเชิงกายภาพ หรือฮาร์ดแวร์
1.เครือข่ายเชิงกายภาพ (Physical Networking)หรือฮาร์ดแวร์ หรืออุปกรณ์เครือข่ายได้แก่ สายนำสัญญาณ แผ่นวงจรเครือข่าย (LAN Card) ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ ฮับ (Hub) และสิ่งอื่นๆ ที่ทำให้เครือข่ายทำงานสิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับส่วนเครือข่ายเชิงกายภาพทั้งหมดก็คือเรื่องของฮาร์ดแวร์
ลักษณะสถาปัตยกรรมเครือข่ายเชิงกายภาพ (Physical Topologies) ระบบเครือข่ายทางด้านกายภาพนี้คือ การใช้สายไฟฟ้าหรือสายเคเบิล เราเรียกกันว่า สายโคแอกซ์ (Coaxial Cabies) หรือสาย RG 58 ซึ่งมีลักษณะคล้ายสายสัญญาณเคเบิลทีวีใช้ตามบ้านทั่วไปเชื่อมโยงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายอื่น สายสัญญาณเส้นนี้จะเชื่อมโยงเข้ากับแผ่นวงจรเครือข่าย หรือที่เราเรียกว่า แลนการ์ด ที่ติดตั้งอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์
ลักษณะสถาปัตยกรรมเครือข่ายเชิงกายภาพมีดังนี้
1.แสดงการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ที่มีสถาปัตยกรรมเครือข่ายแบบบัสหรืออีเทอร์เน็ต จะใช้สายสัญญาณชนิด 10Base 2 เป็นสายมาตรฐานเก่ามีลักษณะคล้ายเคเบิลทีวี
2.แสดงการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ที่มีสถาปัตยกรรมเครือข่ายแบบดาวหรืออีเทอร์เน็ต จะใช้สายสัญญาณชนิด 10Base-T หรือสายยูทีพี
3.แสดงการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ที่มีสถาปัตยกรรมเครือข่ายแบบวงแหวน หรือวงแหวนโทเค็น
4.แสดงการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ที่มีสถาปัตยกรรมเครือข่ายแบบต้นไม้ (ทรี)2.ซอฟแวร์หรือส่วนการจัดการเครือข่ายเชิงตรรกะ เป็นซอฟแวร์เครือข่ายที่กำหนดกฎเกณฑ์ในการบริหารจัดการเกี่ยวกับอุปกรณ์ และการควบคุมการถ่ายโอนข้อมูลของเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องบริการ (Server) และเครื่องรับบริการ (Client) ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเกณฑ์วิธีการทำงานของเครือข่ายให้คอมพิวเตอร์สื่อสารกันได้
ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน เช่น การใช้โปรแกรม เครือข่ายโนเวลส์ (Novell’s Netware) จะอาศัย Netwaer Directory Services ในการบริหารจัดการกับเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ ถ้าใช้โปรแกรมของไมโครซอฟต์เพื่อควบคุมการทำงานเช่นเดียวกัน จะใช้ Domain ในการบริหารจัดการ เป็นต้น
คำถามท้ายหน่วยที่5
1.องค์ประกอบของการส่งข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งจะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญกี่ส่วน
ก. 2 ส่วน
ข. 3 ส่วน
ค. 4 ส่วน
ง. 5 ส่วน
2. Lan (Lacal Area
Network) คือ อะไร
ก. เป็นเครือข่ายที่นิยมใช้ภายในสำนักงานอาคารเดียวกัน
ข. เป็นเครือข่ายที่มีการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้ในเขตเมืองเดียวกัน
ค. เป็นเครือข่ายที่มีการเชื่อมโยงระบบเข้าด้วยกันในระยะไกล
ง. เป็นเครือข่ายที่มีการเชื่อมโยงระบบเข้าด้วยกันในระยะครอบคลุมทุกส่วน
3. MAN คือ อะไร
ก. Mam Area Network
ข. Mamory Area
Network
ค. Metropolitan Area Network
ง. Mewide Area Network
4.WAN คืออะไร
ก. Where Area Network
ข. Wan Area Network
ค. Wetropolitan Area
Network
ง. Wide Area Network
5.การเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานร่วมกัน มีกี่ส่วน
ก. 2 ส่วน
ข. 3 ส่วน
ค. 4 ส่วน
ง. 5 ส่วน
คำตอบ 1.ข 2. ก 3.ค 4.ง 5.ก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น